EP:11 - แก๊งค้ายาและเครือข่ายฟอกเงินทั่วโลก

EP:11 - แก๊งค้ายาและเครือข่ายฟอกเงินทั่วโลก

        แก๊งค้ายาเป็นหนึ่งในเครือข่ายฟอกเงินที่มีความสลับซับซ้อนที่สุดในโลก ในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า การค้ายาเสพติดทั่วโลกสร้างรายได้มากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยแก๊งค้ายาจะใช้บริการผ่านธนาคาร แผนการทางการค้า (Trade-based Schemes) คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) และหน่วยงานต่างประเทศเพื่อฟอกเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย (UNODC 112)

การฟอกเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแก๊งค้ายาในการปกปิดผลกำไรที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย หลบเลี่ยงการถูกบังคับใช้กฎหมาย และท้ายที่สุดก็จะนำเงินกลับไปลงทุนในองค์กรอาชญากรรมอีกครั้ง โดยที่องค์กรอาชญากรรมใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทางการเงิน ตลอดจนกฎระเบียบด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่อ่อนแอ และช่องว่างในความร่วมมือระหว่างประเทศในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อกวาดล้างเงินสกปรกดังกล่าว

สำหรับประเทศไทย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ (Golden Triangle) ไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมากจากการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟอกเงินผ่านบ่อนคาสิโน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนผ่านธุรกรรมทางการค้า และระบบธนาคารใต้ดิน โดยที่ บทความนี้จะได้กล่าวถึงวิธีการที่กลุ่มค้ายาฟอกเงิน เทคนิคการฟอกเงินที่สำคัญ กรณีศึกษาสำคัญ และความพยายามด้านกฎระเบียบของประเทศไทยในการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินรูปแบบนี้

แก๊งค้ายาฟอกเงินกันอย่างไร

1. กระบวนการฟอกเงินสามขั้นตอน

เช่นเดียวกับอาชญากรทางการเงินอื่นๆ แก๊งค้ายาใช้กระบวนการฟอกเงินสามขั้นตอนแบบคลาสสิกเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของรายได้จากยาเสพติดที่ผิดกฎหมายดังนี้:

     1. การยักย้ายเงิน (Placement) – เงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดที่ผิดกฎหมายถูกนำเข้าสู่ระบบการเงินผ่าน:

  • ธุรกิจที่ใช้เงินสดจำนวนมาก เช่น ไนต์คลับ ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหาร
  • การฝากเงินย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ (Smurfing) ซึ่งเงินสดจำนวนมากถูกแบ่งย่อยออกเป็นเงินฝากขนาดเล็ก
  • การลักลอบนำเงินสดจำนวนมากไปยังประเทศที่มีกฎระเบียบต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ที่ไม่เข้มงวด (FATF 45)


     2. การปกปิดแหล่งที่มาของเงิน (Layering)- เงินสกปรกจะถูกเคลื่อนย้ายผ่านธุรกรรมหลากหลายรูปแบบเพื่อปกปิดแหล่งที่มา:

  • บริษัทบังหน้าและบัญชีนอกประเทศ (Shell companies and offshore accounts) ดำเนินธุรกรรมโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
  • การฟอกเงินโดยอาศัยการค้า (Trade-based Money Laundering--TBML) ถูกใช้เพื่อปกปิดเงินทุนผิดกฎหมายในธุรกรรมนำเข้า/ส่งออกปลอม
  • การแปลงเงินเป็นคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการแลกเปลี่ยนที่ไร้การควบคุม (IMF98)

     3. การนำกลับมาใช้ - เงินถูกนำกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในฐานะสินทรัพย์ "สะอาด":

  • การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู และทองคำ
  • การลงทุนในตลาดหุ้นและการพนันในบ่อนคาสิโน
  • การบริจาคทางการเมืองและการติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาอิทธิพลของกลุ่มค้ายา (OECD 133)


2. การฟอกเงินโดยอาศัยการค้า (Trade-Based Money Laundering--TBML) ในการค้ายาเสพติด


การฟอกเงินโดยอาศัยการค้าเป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับกลุ่มค้ายาในการฟอกเงินข้ามพรมแดน เกี่ยวข้องกับ:

  • การออกใบแจ้งหนี้ที่มีมูลค่าเกินจริงและต่ำกว่าความเป็นจริงสำหรับสินค้า (Over-invoicing and Under-Invoicing of Goods) เพื่อเคลื่อนย้ายเงินข้ามประเทศ
  • การส่งของปลอมๆ (Phantom Shipments) กล่าวคือไม่มีการส่งสินค้าไปจริง แต่ใบแจ้งหนี้ปลอมเป็นข้ออ้างในการจ่ายเงินจำนวนมาก
  • การใช้เงินทุนการค้าระหว่างประเทศเพื่อปกปิดธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย (World Bank 177).

 

ตัวอย่าง: กลุ่มค้ายาซีนาโลอา (Sinaloa Cartel) ใช้การฟอกเงินโดยอาศัยการค้าเพื่อเคลื่อนย้ายรายได้จากการค้ายาเสพติดผ่านการส่งออกสิ่งทอจากเม็กซิโกไปยังจีน โดยปลอมแปลงธุรกรรมให้เป็นการค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย (Interpol 75)

3. บทบาทของคริปโทเคอร์เรนซีในการฟอกเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด

คริปโทเคอร์เรนซีกลายเป็นเครื่องมือที่กลุ่มค้ายานิยมใช้ เนื่องจากมีคุณสมบัติ:

  • การไม่เปิดเผยตัวตนหรือการใช้นามแฝง (Pseudo-anonymity) ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามธุรกรรมได้ยากขึ้น
  • ธุรกรรมที่รวดเร็วและไร้พรมแดน ช่วยลดความจำเป็นในการเคลื่อนย้ายเงินสด
  • การใช้เหรียญความเป็นส่วนตัว เช่น Monero (XMR) และ Bitcoin Mixers เพื่อปกปิดเส้นทางทางการเงิน (Interpol 98)


ตัวอย่าง: กลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือฟอกเงินหลายล้านดอลลาร์จากการค้ายาเสพติดโดยใช้กระเป๋าเงินคริปโทและการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) โดยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (FATF 56)

4. การธนาคารนอกประเทศและบริษัทบังหน้า (Offshore Banking and Shell Companies)

  • กลุ่มค้ายาได้จัดตั้งบริษัทบังหน้านอกประเทศขึ้นในประเทศปลอดภาษี (Offshore Shell Companies in Tax Haven) เช่น หมู่เกาะเคย์แมน ปานามา และสวิตเซอร์แลนด์
  • เงินถูกโอนผ่านธุรกรรมธนาคารแบบซับซ้อนหลายชั้น (Layered Banking Transactions) เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากเจ้าหน้าที่
  • สถาบันการเงินที่มีการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินที่อ่อนแอ มักอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมของกลุ่มค้ายาโดยไม่รู้ตัว (OECD 122)


ตัวอย่าง: กลุ่มมาเฟีย 'Ndrangheta' ในอิตาลีได้ทำการฟอกเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ผ่านธนาคารสวิสและบริษัทบังหน้าในหมู่เกาะทะเลแคริบเบียน โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราเพื่อรวบรวมความมั่งคั่งที่ผิดกฎหมาย (IMF 67)

5. คาสิโนและเศรษฐกิจยาเสพติด

  • กลุ่มค้ายาจะลงทุนในบ่อนคาสิโนเพื่อทำการฟอกเงินสดที่ได้มาโดยผิดกฎหมายผ่านธุรกรรมการเล่นการพนัน
  • นักพนันที่มีเงินเดิมพันสูงใช้เงินสกปรกซื้อชิปและถอนออกในรูปแบบของ "เงินรางวัล" ซี่งกลายเป็นเงินสะอาด
  • เป็นที่ทราบกันดีว่า บ่อนคาสิโนในประเทศกัมพูชา ลาว และมาเก๊า จะอำนวยความสะดวกในการฟอกเงินของกลุ่มค้ายา (Interpol 92).


ตัวอย่าง: แก๊งค้ายาในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำฟอกเงินผ่านบ่อนคาสิโนในประเทศเมียนมาร์และกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่มีการกำกับดูแลทางการเงินที่ค่อนข้างอ่อนแอ ทำให้มีการทำธุรกรรมด้วยเงินสดจำนวนมากโดยมีการตรวจสอบเพียงเล็กน้อยหรือแทบมิได้มีการตรวจสอบแต่อย่างใด (AMLO 88)

ความพยายามด้านการต่อต้านการฟอกเงินของประเทศไทยในการปราบปรามกลุ่มค้ายาเสพย์ติด

1. การปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของสำนักงานปปง.

  • มุ่งเป้าไปที่ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ สินค้าฟุ่มเฟือย และบัญชีเงินฝากธนาคารนอกประเทศ (Offshore Bank Accounts) ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพย์ติด (AMLO 42)
  • เพิ่มความร่วมมือกับอาเซียนและ FATF เพื่อติดตามการฟอกเงินข้ามพรมแดน

2. มาตรการต่อต้านการฟอกเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยสำหรับสถาบันการเงิน

  • หน้าที่การรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยสำหรับธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน 2 ล้านบาท
  • เพิ่มความเข้มข้นด้าน KYC และมาตรการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงที่เข้มข้นขึ้น (Enhanced Due Diligence--EDD) สำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง
  • การกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนสกุลคริปโทเคอร์เรนซีและกระเป๋าเงินดิจิทัล (Bank of Thailand 35)


3. การปฏิบัติตามคำแนะนำของ FATF และแนวทางการบังคับใช้ยาเสพติดของสหประชาชาติในประเทศไทย

  • การติดตามธุรกรรมการค้าและการเงินโดยอิงตามความเสี่ยงที่สอดคล้องกับ FATF
  • ความร่วมมือกับตำรวจสากลและ UNODC เพื่อเฝ้าติดตามเครือข่ายทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพย์ติด (FATF 47)

 

บทสรุป

กลุ่มค้ายาเสพติดใช้เครือข่ายการฟอกเงินที่มีความซับซ้อนขั้นสูง ซึ่งมีความเกี่ยวพัน ผูกโยงเข้ากับโครงการทางการค้า สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี การธนาคารนอกประเทศ (Offshore Banking) และบ่อนคาสิโน เพื่อฟอกเงินทุนผิดกฎหมาย ประเทศไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำยังคงมีความเสี่ยงต่ออาชญากรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ทั้งนี้ แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลของไทยจะมีความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AML) มากขึ้น กระนั้นก็ดี ไทยก็ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อยกระดับการตรวจสอบธุรกรรมที่ขับเคลื่อนโดยเอไอ ตลอดจนการกำกับดูแลภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูง และขยายความร่วมมือระดับโลกเพื่อทลายเครือข่ายการฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติด

บรรณานุกรม

AMLO. Thailand's Strategy Against Drug Cartel Money Laundering. 2023.
Bank of Thailand. AML Compliance in Financial Institutions and Drug-Linked Transactions. 2023.
FATF. Global Framework for Combatting Narcotics-Related Money Laundering. 2023.
IMF. Drug Cartels and Illicit Financial Networks: A Global Perspective. 2023.
Interpol. Cryptocurrency and Dark Web Transactions in Drug Money Laundering. 2023.
OECD. Trade-Based Money Laundering in the Drug Trade. 2023.
UNODC. The Economics of the Global Drug Trade and Money Laundering Risks. 2023.
World Bank. Financial Institutions and the Laundering of Drug Proceeds. 2023.

 

 



 

Powered by MakeWebEasy.com